เรื่องของ ทองคำ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เขียนโดย Admin 1 ความคิดเห็น

โอ้โห! ทอง ทอง...แหมคงไม่มีใครไม่ตื่นตาตื่นใจกับ "ทองคำ" หรือ "อัญมณี" หรอกใช่ไหม แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าจะได้มาซึ่ง "ทองคำ" อันล้ำค่า เอาเป็นว่าเราไปรู้จักกับ "ทองคำ"พร้อมๆ กันดีกว่า...

ทองคำ (Gold) เป็นโลหะมีค่าที่อยู่ในกลุ่มโลหะมีค่าประเภทเดียวกับเงิน แพลทินัม แพลเลเดียม โรเดียม อิริเดียม และออสเมียม ซึ่งทองคำนั้นเกิดโดยธรรมชาติ เป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติ มีความคงทนต่อการเกิดปฏิกิริยาสูง จึงทนต่อการผุกร่อน ไม่เกิดการออกซิไดซ์กับอากาศ จึงสามารถเก็บรักษาโดยคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมอันสวยงามไว้ได้นาน ไม่หมอง จึงนิยมนำมาใช้ทำเป็นเครื่องประดับ วัสดุทางทันตกรรม บางส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และทองคำ (99.99%) ก็ใช้เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศอีกด้วย

ทองคำ (Gold) มีสัญลักษณ์ทางเคมี คือ Au ซึ่งมาจากคำว่า Aurum ในภาษากรีกมีน้ำหนักอะตอม 196.966 amu มีความถ่วงจำเพาะ 19.33 g/cc มีจุดหลอมเหลว 1,064 องศาเซลเซียส จุดเดือด 2,970 องศาเซลเซียส เป็นโลหะอ่อนจึงสามารถตีเป็นแผ ่นบางๆ หรือดึงเป็นเส้นได้ โดยทองคำบริสุทธิ์หนัก 1 ออนซ์ สามารถดึงเป็นเส้นลวดได้ยาวถึง 35 ไมล์ มีความแข็งอยู่ที่ประมาณ 2.25 และสำหรับประเทศไทย ซึ่งนิยมใช้หน่วยทองคำเป็นบาทนั้นจะมีค่าเท่ากับ 15.2 กรัม

เห็นได้ว่าทองคำมีค่าความแข็งค่อนข้างน้อย ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงนำโลหะชนิดอื่นเข้ามาผสมกับทองคำเพื่อเพิ่มความแข็งให้มากขึ้น และนอกจากความแข็ง ซึ่งเพิ่มขึ้นแล้วนั้น สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือสีสันอันหลากหลายของทองคำนั่นเอง ได้แก่...

"ทองกะรัต" (Karat Gold) ได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง ซึ่งได้ค่าความบริสุทธิ์ของทองคำที่ผสมออกมาเป็นค่ากะรัต หรือ K เครื่องประดับทองส่วนมากก็มักจะนิยมสีทองกะรัตหรือสีทองอร่ามนี้ ซึ่งเป็นสีมาตรฐานที่สากลนิยม แต่ความเข้มของสีทองนั้นก็มักจะแตกต่างกันไปตามความนิยมของผู้บริโภคในประเทศ

"ทองสีชมพู" (Pink Gold) ซึ่งได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับเงินและทองแดง โดยเพิ่มค่าสัดส่วนของทองแดงให้มากขึ้น จึงทำให้ได้สีชมพู ในต่างประเทศยังเรียกทองชนิดนี้ว่า Rose Gold ซึ่งนิยมใช้สำหรับเครื่องประดับแฟชั่นที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอ่อนหวาน

"ทองขาว" ซึ่งท่านผู้อ่านส่วนใหญ่มักสับสนกับ "ทองคำขาว" เพราะชื่อค่อนข้างคล้ายกัน ทองขาวนั้นได้จากการผสมทองคำบริสุทธิ์กับพัลลาเดียม นิกเกิล และสังกะสี ส่วนทองคำขาว (แพลทินัม) นั้นเป็นธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีลักษณะเช่นเดียวกับทองคำ แต่แพลทินัมนี้จะมีความแวววาวสูง และสามารถคงความงดงามได้ตลอดไป ทำให้มีราคาสูงกว่าทองขาวและทองทั่วไปเกือบ 3 เท่าตัว

นอกจากสีของทองคำที่กล่าวมาแล้วนั้น ทองคำยังมีสีอื่นๆ อีกมากมาย โดยปัจจุบันก็มีการคิดค้นสีของทองคำเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นเกิดมาจากแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับราคาของทองคำหลากสีที่ถีบตัวสูงมากขึ้น และไอเดียของเหล่าดีไซเนอร์ทำให้ปัจจุบันแฟชั่นหรือรูปแบบของทองคำเปลี่ยนแปลงไป
TOP OF PAGE
ป้ายกำกับ: